วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559



สตาร์ วอร์ส (อังกฤษStar Wars) เป็นภาพยนตร์ชุดแนว มหากาพย์ ละครอวกาศ สร้างโดย จอร์จ ลูคัส นอกจากนี้ยังมีสื่อต่างๆที่นอกเหนือจากภาพยนตร์ เรียกว่า จักรวาลขยาย ได้แก่ หนังสือ ละครโทรทัศน์ วิดีโอเกมและหนังสือการ์ตูน
ภาพยนตร์ชุดแรกออกฉายเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1977 ในชื่อ สตาร์ วอร์ส โดย 20th Century Fox ได้รับความนิยมสูงทั่วโลก จนเกิดเป็นปรากฏการณ์ จนมีการสร้างภาคต่ออีก 2 ภาค โดยเว้นระยะห่างแต่ละภาคเป็นเวลา 3 ปี
16 ปี ต่อมาหลังฉายไตรภาคเดิม ก็ได้มีการฉายไตรภาคต้น โดยเว้นระยะห่างแต่ละภาคเป็นเวลา 3 ปี เช่นกัน โดยภาคสุดท้ายฉายเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2005 ในเดือนตุลาคมปี ค.ศ. 2012 บริษัท เดอะวอลต์ดิสนีย์ ได้ทำการซื้อบริษัท ลูคัสฟิล์ม เป็นจำนวนเงิน $4.05 พันล้าน และประกาศสร้างไตรภาคใหม่ของสตาร์ วอร์ส โดยภาคแรก Star Wars Episode VII, กำหนดฉายในปี ค.ศ. 2015[1] อย่างไรก็ดีค่าย 20th Century Fox ยังคงได้สิทธิ์ได้การจำหน่ายภาพยนตร์ สตาร์ วอร์ส ทั้งสองไตรภาคอยู่ โดยเฉพาะภาค สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 4: ความหวังใหม่ นั้น 20th Century Fox จะเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว ส่วน ภาค 1-3, 5 และ 6 นั้นจะหมดสัญญาภายใน พฤษภาคม ค.ศ. 2020

ฉากหลัง


เรื่องชุดสตาร์ วอร์สดำเนินเรื่องในจักรวาลสมมติ มีมนุษย์ต่างดาวหลายเผ่าพันธุ์ (ส่วนใหญ่มีลักษณะคล้ายมนุษย์) มีหุ่นยนต์รับใช้พบได้ทั่วไป การเดินทางในอวกาศเป็นเรื่องธรรมดา ดาวเคราะห์หลายดวงในกาแลกซีเป็นส่วนหนึ่งขององค์การปกครองเดียวกัน อาจเป็นสาธารณรัฐหรือจักรวรรดิตามแต่ช่วงเวลาของท้องเรื่อง

ส่วนหนึ่งที่สำคัญของสตาร์ วอร์สคือ "พลัง" (อังกฤษforce) ซึ่งเป็นพลังงานเหนือธรรมชาติอย่างหนึ่งที่สามารถเรียกใช้ได้โดยผู้มีความสามารถพิเศษ ภาพยนตร์เรื่องแรกสุดได้อธิบายพลังไว้ว่าเป็น "สนามพลังที่สร้างขึ้นโดยสิ่งมีชีวิตรอบๆ ตัว มันล้อมรอบเรา แทรกซึมเข้ามาในตัวเรา ผูกมัดกาแลกซีทั้งกาแลกซีไว้ด้วยกัน"[3] การมีพลังนี้ทำให้ผู้ที่สามารถใช้พลังได้มีความสามารถเหนือธรรมชาติหลายอย่าง (เช่น พลังเคลื่อนย้าย การทำนายอนาคต การควบคุมจิตใจ) รวมทั้งการเพิ่มความสามารถทางกาย เพิ่มความเร็ว เพิ่มปฏิกิริยาโต้ตอบ ความสามารถเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปในผู้ใช้แต่ละคนและสามารถพัฒนาได้ด้วยการฝึกฝน แม้พลังจะสามารถใช้ได้ในทางที่ดีแต่ก็มีด้านมืดที่หากถูกชักจูงด้วยความเกลียด ความโกรธ ความคิดมุ่งร้าย ภาพยนตร์ทั้งหกเรื่องแสดงให้เห็นถึงเจไดซึ่งเป็นผู้ที่ใช้พลังในทางที่ดี และเหล่าซิธที่ใช้พลังในทางชั่วร้ายและพยายามยึดครองกาแลกซี เนื้อหาแต่งเสริมหลายเรื่องแสดงให้เห็นว่ามีผู้ใช้พลังด้านมืดหลายคนที่เป็นเจไดมืดแต่ไม่ใช่ซิธ ส่วนใหญ่เนื่องมาจากกฎแห่งสองของซิธในยุคที่แสดงให้เห็นในภาพยนตร์

ภาพยนตร์



ภาพยนตร์ชุดสตาร์ วอร์ส เริ่มต้นด้วย สตาร์วอร์ส (Star Wars) ฉายเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1977 ตามด้วยภาคต่ออีก 2 ภาคคือ สตาร์วอร์ส 2 (The Empire Strikes Back)ฉายเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1980 และ สตาร์วอร์ส 3 ชัยชนะของเจได (Return of the Jedi) ฉายเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1983

สองทศวรรษหลังไตรภาคดั้งเดิมออกฉาย ก็ได้มีการสร้างภาพยนตร์ต่อ โดยสร้างเป็นไตรภาคก่อน 3 ภาค ประกอบด้วย สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 1: ภัยซ่อนเร้น (Star Wars Episode I: The Phantom Menace) ฉายเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 1999สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 2: กองทัพโคลนส์จู่โจม (Star Wars Episode II: Attack of the Clones) ฉายเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2002 และ สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 3: ซิธชำระแค้น (Star Wars Episode III: Revenge of the Sith) ฉายเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2005[9]
ต่อมาได้มีการสร้างภาพยนตร์แอนิเมชันชื่อ สตาร์ วอร์ส: สงครามโคลน (Star Wars: The Clone Wars) ฉายเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2008 โดยเป็นการปูเนื้อเรื่องเข้าสู่ สตาร์ วอร์ส: เดอะ โคลน วอร์ส
และภาพยนตร์ไตรภาคต่อชื่อ สตาร์ วอร์ส: อุบัติการณ์แห่งพลัง (Star Wars: The Force Awakens) มีกำหนดฉายวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2015

เนื้อเรื่อง



เนื้อหาในภาพยนตร์ไตรภาคเดิม (เอพพิโซด 4, 5 และ 6) เกี่ยวข้องกับสงครามกลางเมืองกาแลกติกที่มีขึ้นระหว่างพันธมิตรฝ่ายกบฏ กับฝ่ายจักรวรรดิ เป็นการต่อสู้ระหว่างความดีกับความชั่ว ลุค สกายวอล์คเกอร์ หนุ่มน้อยผู้ซึ่งกำลังฝึกฝนเพื่อการเป็นอัศวินเจไดคนสุดท้าย (และคนแรกในเจไดรุ่นใหม่) อาจเป็นผู้เดียวที่สามารถยืนหยัดต่อสู้กับดาร์ธ เวเดอร์ ลอร์ดมืดแห่งซิธ และจักรพรรดิ ดาร์ธ ซิเดียส อาจารย์ของเขา

ภาพยนตร์ไตรภาคก่อน (เอพพิโซด 1, 2, และ 3) กล่าวถึงเหตุการณ์ที่นำไปสู่สงครามกลางกาแล็กซี การล่มสลายของสาธารณรัฐ และความรุ่งเรืองของฝ่ายจักรวรรดิ จากยุทธการนาบูระหว่างนาบูกับสมาพันธ์การค้า ไปจนถึงสงครามโคลนที่มีต่อฝ่ายแบ่งแยกดินแดน สงครามทั้งสองดำเนินไปตามประสงค์ของซิธ ภายใต้พัลพาทีน ผู้ลึกลับ ซึ่งคอยควบคุมทั้งสองฝ่ายอย่างลับ ๆ ภาพยนตร์ไตรภาคย้อนอดีตนี้เกิดขึ้นพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงของอนาคิน สกายวอล์คเกอร์ ซึ่งได้รับการฝึกฝนเป็นเจไดหลังจากสงครามนาบู แต่ในเอพพิโซด 3 อนาคินค่อยๆ ถูกกลืนเข้าสู่อำนาจมืดของพลัง จนกลายเป็นดาร์ธ เวเดอร์ ภายใต้การชี้นำของพัลพาทีน






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น